Previous
Next
banner1-2
banner2-2

DS9 E-Tense 4×4 360 รถยนต์ Plug-in Hybrid สุดยอดความหรูหราจากฝรั่งเศส

DS9 E-Tense 4x4 360

หากกล่าวถึงรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส เราเชื่อว่า DS Automobiles คงต้องติดหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ DS9 E-Tense 4×4 360 รถยนต์ Plug-in Hybrid ปี 2022 ที่มีดีไซน์หรูหราตามแบบฉบับของ DS และที่สำคัญรุ่นนี้ยังมาพร้อมอัตราเร่งแรงจาก 0 – 62 ไมล์/ชม. ใน 3.6 วินาทีเท่านั้น

DS9 E-Tense 4×4 360 รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ แรงม้าสูงสุด 360 แรงม้า 

DS9 E-Tense 4x4 360

DS9 E-Tense 4×4 360เป็นรถยนต์ระบบ Plug-in Hybrid ดังนั้นจึงใช้พลังงานในการขับเคลื่อนจาก 2 แหล่งพลังงานได้แก่ พลังงานน้ำมัน และ ไฟฟ้า โดย 2022DS9 E-Tense 4×4 360มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ 1598 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า 147 กิโลวัตต์ ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 3000 รอบต่อนาที มอเตอร์คู่ที่ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า 80 กิโลวัตต์ และ 113 แรงม้า 83 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุดที่ 320 นิวตันเมตร ที่ 166 รอบต่อนาที 

เมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันจะทำให้ DS9 E-Tense รุ่นนี้มีกำลังสูงสุด 360 แรงม้า 268 กิโลวัตต์ ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (Efficient Automatic Transmission) จึงทำให้รถรุ่นนี้มาอัตราเร่งจาก 0 – 62 ไมล์/ชม. ใน 5.6 วินาที (0 – 1000 ไมล์ ใน 25.4 วินาที) และมี Top Speed ที่ 155 ไมล์/ชม. และในส่วนแบตเตอรี่ของ E-Tense 4×4 360 เป็นแบบ Lithium-Ion 11.9 kWh เซลล์ในแบตเตอรี่ 88 เซลล์ และมีอัตราการใช้พลังงานที่ 153 Wh/km การชาร์จจาก 0 – 100% ใน 1 ชั่วโมง 45 นาที นอกจากนี้การทดสอบการปล่อยไอเสียจากยานยนต์ตามมาตรฐาน WLTP เพียง 1.8 ลิตร/100 กิโลเมตรเท่านั้น

A person driving a car

Description automatically generated

ตกแต่งภายในด้วยความเรียบหรู พร้อมออปชันเพียบ

รถยนต์ DS เป็นแบรนด์รถยนต์หรูระดับพรีเมียมสัญชาติฝรั่งเศสของ Automobiles Citroën S.A. ดังนั้นดีไซน์และการตกแต่งของรถยนต์แต่ละรุ่นของแบรนด์จึงจะมีความเรียบหรู ดูแพง ตามแบบฉบับของแบรนด์ และสำหรับDS9 E-Tense 4×4 360 รุ่นนี้ก็เช่นกัน โดยการตกแต่งภายในจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่DS9 E -Tense 4×4 360 Rivoli+ และ Performance Line+ ซึ่งการตกแต่งแต่ละแบบก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังจะมีออปชันที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย โดยการตกแต่งจะถูกแบบออกเป็น 4 ดีไซน์ดังนี้ DS Black Alcantara Interior Performance Line+, DS Basalt Black Leather Interior Rivoli+, DS Opera Rubis Rad Interior Rivoli+ (+3,000 ยูโร) และ DS Opera Basal Black Interior Rivoli+ (+3,000 ยูโร)

A picture containing indoor, accessory

Description automatically generated

โดยการตกแต่งแบบมาตรฐานที่ไม่ได้มีการซื้อออปชันต่าง ๆ เพิ่มจะเป็นรถ 5 ที่นั่ง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Black Alcantara พร้อมเอฟเฟกต์หนังไวนิล (Performance Line+) เบาะจะถูกหุ้มด้วยหนังสีดำ Basalt ตกแต่งด้วยหนัง Nappa รูปทรงเพชร (Rivoli+) แต่สำหรับใครที่ซื้อออปชัน Rivoli Lounge Pack เพิ่ม 2,000 ยูโร คุณจะได้รับห้องโดยสารด้านหลังที่มีออปชันที่ดีเยี่ยมเพิ่มขึ้น ทั้งที่วางแขน ระบบอุ่นเบาะ ระบบระบายอากาศ และระบบนวด เป็นต้น 

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิงต่าง ๆ การตกแต่งทั้ง 2 แบบจะมาพร้อม หน้าแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว, หน้าจอกลางแบบสัมผัส HD ขนาด 12 นิ้ว, ระบบ DS Connect Nav นำทาง 3 มิติ, ลำโพง 8 ตำแหน่ง, Mirror Screen พร้อม Apple CarPlay, Android Auto และ MirrorLink, แฮนด์ฟรี Bluetooth และการสตรีมมีเดีย พร้อมช่องเสียบ USB, วิทยุดิจิตอล DAB และฟังก์ชันการจดจำเสียง เป็นต้น แต่สำหรับ Rivoli+ จะได้ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สายมาด้วย

สำหรับราคา DS9 E -Tense 4×4 360 Performance Line+ จะมาพร้อมราคารวมภาษีเริ่มต้นที่ £59,900 หรือประมาณ 2,223,809 บาท และสำหรับรุ่น Rivoli+ มีราคารวมภาษีเริ่มต้นที่ £63,000 หรือราว ๆ 2,338,898 บาท (ราคาจำหน่ายในฝรั่งเศส)

ใครว่า ดอกยาง รถยนต์ไม่สำคัญ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจถ้ายังไม่รู้ความจริง !

Hockenheimring Baden-Württemberg สนามแข่งรถเยอรมนี ที่เปิดให้บริการกว่า 90 ปี

More