Categories
Content

รู้จักรถ Ferrari Laferrari สปอร์ตไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์ Ferrari

Ferrari Laferrari

สำหรับ Ferrari Laferrari เป็นรถซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นแรกของค่าย Ferrari ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันในชื่อรุ่น ‘F150’ เปิดตัวครั้งแรกในงาน งานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2013 โดยไฮไลท์เด่นของรถ เฟอร์รารี่ รุ่นนี้คือการนำเทคโนโลยีจากรถแข่ง F1 อย่างระบบช่วยชาร์จพลังงานกลับสู่แบตเตอรี่ขับเคลื่อนเมื่อมีการลดความเร็วหรือเบรก (KERS) มาใส่ไว้ในรถ ช่วยให้ลดการใช้พลังงานน้ำมัน และลดการปล่อยก๊าซเสีย โดยรถ Ferrari Laferrari มีจุดเด่นสำคัญดังนี้ 

  • ตัวถังและช่วงล่าง

Ferrari Laferrari  มีรูปตัวถัง 2 รุ่น คือ แบบคูเป ที่มีการจำกัดจำนวนเพียง 500 คัน กับแบบสไปเดอร์ เปิดประทุน ที่มีจำนวนเพียง 210 คัน รวมแล้วรถ Laferrar มีจำนวนจำกัดเพียง 710 คันทั่วโลกเท่านั้น  โดยตัวถังทั้ง 2 รุ่นมีเครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) เหมือนกัน 

  • ประตูรถและฝากระโปรง

ประตูรถผลิตจากคาร์บอนหล่อทั้งแท่งและมีลิ้นหน้าเป็นคาร์บอนเช่นกัน ทำให้มีความลู่ลม ส่วนฝากระโปรงหน้าจะเป็นพื้นที่โล่งไม่มีเครื่องยนต์ แต่จะมีการเดินระบบความร้อนมาอยู่บริเวณกระโปรงหน้า ส่วนของตัวล็อคล้อทำมาจากหนังแท้ 100%

  • ล้อและกระจกข้า

ในส่วนของกระจกมองข้างมีก้านแบบบางทำมาจากคาร์บอนทั้งชิ้น ทำให้มีความคงทนสูง ถูกออกแบบให้สามารถมองข้าง ๆ ในจุดอับได้ดีจึงทำการขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น มาดูในส่วนของล้อเป็นล้อขนาด 20นิ้วประเภท FORGED หล่อมาด้วยยางทีคุณภาพสูงและแข็งแรง

  • พวงมาลัย

พวงมาลัยแบบ Multifunction สามารถปรับโหมดต่าง ๆ ได้ หุ้มด้วยหนัง ALCUNTARA สุดหรูหรา มีหน้าจอบอก RPM สามารถปรับโหมดการขับขี่ที่พวงมาลัยได้ 3 รูปแบบ คือ RACE, SPORT และ WET ส่วนหน้าปัดมีลักษณะคล้ายกับ BASH BOARD ของรถแข่ง 

  • ระบบส่งกำลัง

เครื่องยนต์ 6.3 L Ferrari F140FE V12 ช่วยลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ V12 รุ่นอื่น, มอเตอร์ไฟฟ้า Magneti Marelli 2 ตัว มี Hy-KERS system ให้กำลังรวมสูงสุด 950 แรงม้า มีระบบ เกียร์ดูโอคลัช 7 จังหวะ และระบบขับเคลื่อนไฮบริดเต็มรูปแบบ (FHEV) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมล่าสุดของรถ Ferrari 2024 

  • ขนาด

ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2.650 เมตร, ความยาว 4.702 เมตร, ความกว้าง 1.992 เมตร, ความสูง 1.116 เมตร และน้ำหนักอยู่ที่ 1,585 กิโลกรัม 

Ferrari Laferrari

สมรรถนะของ Ferrari Laferrari

ในส่วนสมรรถะด้านการขับขี่ของ Ferrari Laferrari ก็ต้องบอกว่าชมชื่อยี่ห้อ เฟอร์รารี่ มาก เพราะแม้จะเป็นรถสปอร์ตไฮบริด แต่ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านสมรรถะการขับขี่ที่ทรงพลังทั้งอัตราเร่งและกำลังแรงม้า โดยสมรรถะในภาพรวมมีดังนี้ 

  • เครื่องยนต์

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V12 ขนาด 6,300 ซีซี ให้กำลังขับถึง 789 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังอีก 160 แรงม้า เอาต์พุตมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 120 กิโลวัตต์ ทำให้ตัวรถมีกำลังโดยรวมอยู่ในระดับ 950 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดถึง 91.7 กก./ม. แถมยังมีเทคโนโลยีจากรถ F1 อย่างระบบ KERS ที่ทำหน้าที่ช่วยขับเคลื่อนและชาร์จกระแสไฟฟ้า ทำให้ลดการใช้พลังงานน้ำมันได้มากพอสมควร 

  • แบตเตอรี่

แบตเตอรี่รุ่นล่าสุดของ Ferrari 2024 มีน้ำหนักประมาณ 62 กิโลกรัม ติดตั้งอยู่บริเวณกลางลำตัวรถเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักด้านหน้าที่ 41% และด้านหลัง 59% เมื่อรวมระบบไฮบริดทั้งหมดจะมีน้ำหนักราว ๆ 140 กิโลกรัม

  • ความเร็ว

Ferrari Laferrari สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 3 วินาที และเร่งจาก 0-300 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 15 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง แม้ว่าจะยังช้ากว่าคู่แข่งอย่าง Lamborghini Veneno อยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังแรงกว่ารถสปอร์ตที่ใช้พลังงานน้ำมันบางรุ่นเสียอีก

  • ราคา

Ferrari Laferrari ราคา เปิดตัวอยู่ที่ 1.69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 50.7 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ราคาพุ่งขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว เนื่องจากรถมีจำนวนจำกัดเพียง 710 คันทั่วโลกเท่านั้น ทำให้มีการประมูลรถรุ่นนี้กันในราคามโหฬาร ตัวอย่างเช่น การประมูลเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปี 2016 รถ Ferrari Laferrari มือสอง คันหนึ่งถูกประมูลออกไปในราคากว่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 248 ล้านบาท ส่วน Laferrari ราคาในไทย เชื่อกันว่าตอนนี้เกินหลัก 200 ล้านบาทไปแล้ว (ไม่รวมภาษี)

แนะนำ 5 รถ Ferrari มาแรงประจำปี 2024 

สำหรับใครที่สาวกของค่าย Ferrari แล้วรู้สึกท้อแท้เมื่อเห็นราคาของ Ferrari Laferrari ก็อย่าเพิ่งคอตกกันไป เพราะวันนี้เรายังมีรถ Ferrari 2024 มาแรงมาแนะนำกันถึง 5 รุ่น บอกเลยว่าแต่ละรุ่นทั้งสวยและมีสมรรถะการขับขี่ที่เป็นเลิศไม่แพ้รถ Ferrari Laferrari ราคา 200 ล้านเลย ส่วนจะมีรุ่นไหนกันบ้างต้องลองไปติดตามกันเลย 

1.Ferrari 296 GTS (2022)

รถ Ferrari 296 GTS เป็นระบบไฮบริด มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2,992 ซีซี รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด V6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลัง 830 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.9 วินาทีเท่านั้น มีระบบเกียร์ออโต้ 8AT ขับเคลื่อนล้อหลัง 

ราคา: ประมาณ 25 ล้านบาท

2.Ferrari Roma V8 Turbo (2020)

รถ เฟอร์รารี่ รุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 Turbo ให้กำลัง 620 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที มาพร้อมกับระบบควบคุมแรงบูสต์แบบแปรผัน (Variable Boost Management) ช่วยให้คันเร่งตอบสนองได้ฉับไวในทุกจังหวะความเร็ว มีชุดเกียร์ใแบบ 8 สปีด เปลี่ยนจังหวะได้รวดเร็วและนุ่มนวล ภายใน ห้องโดยสาร ตกแต่งสไตล์สปอร์ตโทนสีดำ พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับสูง-ต่ำได้ 

ราคา: ประมาณ 21 ล้านบาท

3.Ferrari-F8 Spider V8 (2020)

Ferrari-F8 Spider ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ความจุ 3,902 ซีซี ให้กำลัง 720 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที มีอัตราส่วนแรงม้าต่อความจุที่ 185 แรงม้า/ลิตร แรงบิดสูงสุดถึง 770 นิวตันเมตร ที่ 3,250 รอบ/นาที เสริมด้วยระบบเกียออโต้ 8AT ขับเคลื่อนสี่ล้อ และมีระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ และระบบกระจายแรงเบรก ป้องกันรถพลิกคว่ำ 

ราคา: ประมาณ 26 ล้านบาท 

4.Ferrari 488 GTB Standard (2015)

รถสปอร์ตสไตล์คลาสสิกที่เน้นเส้นสายดั้งเดิมของ Ferrari ซึ่งจะเห็นได้จากชื่อรุ่น ‘GTB’ นั้น ย่อมาจากภาษาอิตาลี คือ ‘Gran Turismo Berlinetta’ อันเป็นชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Ferrari นั่นเอง มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3,902 ซีซี ให้กำลัง 670 แรงม้า มีระบบเกียร์ออโต้ 7AT ขับเคลื่อนล้อหลัง ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 330 กม./ชม. ใครที่คิดว่า Ferrari Laferrari ราคา สูงเกินไปและคงหาซื้อไม่ได้แล้ว ลองหันมามอง Ferrari 488 GTB ที่มีดีไซน์แบบ Ferrari ดั้งเดิมคล้ายกัน ก็น่าจะ ตอบโจทย์ สำหรับคนที่ชอบดีไซน์แบบ Laferrari

ราคา: ประมาณ 24 ล้านบาท

5. Ferrari SF90 Stradale V8 (2020)

มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3,990 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 780 แรงม้า ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์ที่สามารถทำแรงม้าได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ Ferrari ในช่วงที่มัน เปิดตัวใหม่ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. โดยใช้เวลาเพียง 2.5 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 6.7 วินาทีเท่านั้น มีระบบเกียร์ออโต้ 8AT ขับเคลื่อนสี่ล้อ 

ราคา: ประมาณ 41 ล้านบาท 

ประวัติแบรนด์ Ferrari

สำหรับแบรนด์รถยนต์ เฟอร์รารี่ ที่เป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตและรถซูเปอร์คารุ่นดังทั้ง Ferrari Laferrari  , Ferrari Icona Series, Ferrari Portofino M นั้น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1939 ในเมืองมาราเนลโล ประเทศอิตาลี โดย ‘เอ็นโซ เฟอร์รารี่’ (Enzo Ferrari) นักแข่งรถและวิศวกรหนุ่มชาวอิตาเลียน โดยรถยนต์รุ่นแรกของค่ายคือ Ferrari 125 S ซึ่งเป็นรถแข่งคันแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าชัยชนะให้ทีม Ferrari ในการแข่งขันรายการ ROME GRAND PRIX

ในส่วนโลโก้รูป ‘ม้าดำ’ สุดคลาสสิคของ Ferrari นั้น มีที่มาจากตอนที่ เอ็นโซ เฟอร์รารี ได้พบกับ ‘เอ็นริโก้ บารัคคา’ (Enrico Baracca) ซึ่งเป็นนักบินในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดย บารัคคา มีสัญลักษณ์รูปม้าสีดำติดอยู่บนเครื่องบินของเขา พ่อของ เอ็นโซ จึงเสนอให้เขาใช้รูปม้าดำนี้ใส่ไว้บนรถที่เขาสร้างขึ้นเพื่อนำมาซึ่งความโชคดี และนับแต่นั้นเป็นต้นมา แบรนด์ Ferrari จึงมีโลโก้เป็นม้าสีดำ

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
Content

แนะนำ 5 รถไฮบริด 2024 ยอดนิยม ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง

รถไฮบริด 2024

รถยนต์ไฮบริดคืออะไร ต่างจากรถทั่วไปอย่างไร?

รถยนต์ไฮบริด ( รถ hybrid ) คือ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ทั้งแบบสันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งหลักการทำงานจะแตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้งานพลังงานน้ำมันหรือรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% โดยภายใน รถไฮบริด จะมีระบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าโดยเปลี่ยนพลังงานขณะเครื่องยนต์ขับเคลื่อนมาเป็นพลังงานไฟฟ้าแล้วเก็บสำรองไว้ในแบตเตอรี่ เมื่อรถใช้พลังงานมากเกินกว่าที่เครื่องยนต์ผลิตได้ ระบบก็จะดึงพลังงงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้ ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน  ซึ่งรถยนต์ไฮบริดมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ดังนี้ 

ข้อดีของรถยนต์ไฮบริด

1.ประหยัดพลังงาน: รถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่น โดยเฉพาะ รถไฮบริด 2024 มาพร้อมระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพกว่ารถรุ่นก่อน ๆ สามารถดึงพลังงานไฟฟ้าที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่มาใช้แทนพลังงานจากน้ำมันได้ดีขึ้น เมื่อลดความเร็วโดยการแตะเบรก เครื่องยนต์จะหยุดทำงานแล้วเปลี่ยนไปใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแทน ทำให้ลดการใช้น้ำมันได้มาก 

2.ลดมลพิษ: รถยนต์แบบไฮบริดมีการปล่อก๊าซเสียที่เกิดจากการสันดาปน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมัน 100% เนื่องจากเครื่องยนต์ไม่ได้ทำงานตลอดเวลา บางจังหวะรถมีการเปลี่ยนไปใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานแทน ทำให้ไม่มีการเผาไหม้ในห้องเครื่อง 

3.อัตราเร่งราบรื่น: รถ hybrid รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะ รถไฮบริด 2024 ได้รับการพัฒนาให้ระบบการทำงานของเครื่องยนต์น้ำมันสามารถทำงานร่วมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน 100% รุ่นเก่าเสียอีก

4.เสียงรบกวนน้อย: รถยนต์ไฮบริดมีเสียงรบกวนค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะเวลารถไม่ได้เคลื่อนที่ เพราะเครื่องยนต์จะดับ มีเพียงมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พลังงานแทน ทำให้เสียงรบกวนน้อยมาก รถบางรุ่นหากจอดอยู่นิ่ง ๆ ก็แทบแยกไม่ออกเลยว่ารถสตาร์ทอยู่หรือดับเครื่องแล้ว ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการเดินทาง 

ข้อจำกัดของรถยนต์ไฮบริด

1.ดูแลรักษายากกว่า: หากเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้ามีปัญหาทำงานขัดข้อง เจ้าของรถควรนำรถเข้าอู่ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำการซ่อมแซม ไม่ควรซ่อมด้วยตัวเอง เพราะระบบเครื่องยนต์ของรถยนต์ไฮบริดนั้นมีความซับซ้อนและซ่อมยากกว่ารถยนต์พลังงานน้ำมัน 

2.แบตเตอรี่มีราคาสูง: แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฮบริดนั้นมีราคาแพงกว่าแบตของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไปหลายเท่า เพราะเป็นนวัตกรรมที่มีความซับซ้อนกว่า สามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า โดยเฉพาะ รถไฮบริด 2024 รุ่นใหม่ ๆ ที่มักจะมาพร้อมแบตเตอรี่ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดด้วยแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าราคาแบตหลักหลายหมื่นถึงหลักแสน ซ่อมครั้งหนึ่งหากไม่มีประกันก็กระเป๋าฉีกกันเลยทีเดียว 

ส่วนประกอบของรถยนต์ไฮบริดที่ควรรู้

อย่างที่เราบอกไปแล้วว่า รถไฮบริด มีส่วนประกอบในห้องเครื่องยนต์ที่แตกต่างจากรถยนต์พลังงานน้ำมันทั่วไป ทำให้การดูแลรักษาค่อนข้างทำได้ยากกว่า และหากเกิดปัญหาก็ต้องเอารถเข้าอู่ ไม่ควรพยายามซ่อมด้วยตัวเอง เนื่องจากส่วนประกอบของรถยนต์ประเภทนี้มีความซับซ้อนสูง หากไม่ใช่ช่างผู้เชี่ยวชาญอาจเกิดปัญหาหนักกว่าเดิมได้ โดยส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ไฮบริดมีดังนี้

1.เครื่องยนต์แก๊สโซลีน

รถไฮบริด 2024 ส่วนมากถูกออกแบบมาให้ใช้เครื่องยนต์สันดาปน้ำมันที่มีขนาดไม่ใหญ่มากเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยก๊าซเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ในห้องเครื่อง ส่วนใหญ่จึงมักเลือกใช้เครื่องยนต์แก๊สโซลีนที่ระเหยง่าย ลดการปล่อยมลพิษ 

2.ถังน้ำมัน

ถังน้ำมันของรถยนต์ไฮบริดส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กกว่าถังน้ำมันของรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน 100% เพราะต้องแบ่งพื้นที่ในห้องเครื่องกับแบตเตอรี่ไฟฟ้า

3.มอเตอร์ไฟฟ้า

มอเตอร์ไฟฟ้าถือเป็นหัวใจสำคัญของ รถ hybrid เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะทำหน้าที่ป้อนพลังงานไฟฟ้าให้กับระบบต่าง ๆ ภายในห้องโดยสายแล้ว ยังต้องทำหน้าที่เป็นตัวสร้างกระแสไฟฟ้าเจเนอเรเตอร์ไปพร้อม ๆ กันด้วย 

4.เจเนอเรเตอร์

ตัวเจเนอเรเตอร์ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าป้อนกลับไปยังแบตเตอรี่เพื่อเป็นพลังงานให้กับเครื่องยนต์ขณะรถยนต์กำลังสตาร์ท

5.แบเตอรี่

ทำหน้าที่กักเก็บพลังงานไฟฟ้าสำรองที่ส่งมาจากมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฮบริดจะมีขนาดใหญ่และใช้ เทคโนโลยี ขั้นสูงกว่าแบตของรถยนต์ทั่วไป ทำให้มีราคาสูงตามไปด้วย 

แนะนำ 5 รถไฮบริด 2024 รุ่นใหม่

สำหรับ รถยนต์ ไฮบริด 2024 รุ่นใหม่ที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้มีด้วยกันถึง 5 รุ่นจาก 5 ค่ายรถยนต์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นในด้านสมรรถนะ ขนาด และดีไซน์ที่แตกต่างกัน ส่วนจะมีรุ่นไหนกันบ้างนั้น ลองไปติดตามกันเลย

รถไฮบริด 2024

1.Honda CR-V e:HEV ES

รถไฮบริด2024 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 148 แรงม้า พ่วงระบบมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 184 แรงม้า มีระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูงความจุ 1.06 กิโลวัตต์ อัตราเร่งแซง 80 – 120 กม./ชม. 

รถไฮบริด 2024

2.HAVAL H6 Hybrid

รถไฮบริด2024 สไตล์ SUV ดีไซน์เน้นความเรียบง่าย มาพร้อมไฟหน้า-ไฟท้ายแบบ LED หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ล้อขนาด 19 นิ้ว ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบซูเปอร์ชาร์จเจอร์ (VGT) พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 243 แรงม้า

3. Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

รถยนต์ ไฮบริด 2024 จากค่ายหรูฝั่งยุโรปอย่าง Mercedes-Benz มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 25.4 กิโลวัตต์ ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 313 แรงม้า  โดยรถใช้ระบบ plug in hybrid สามารถชาร์จไฟฟ้าจากสถานีหรืออุปกรณ์ชาร์จไฟที่บ้านได้เต็ม 100% มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิงอยู่ที่ราว ๆ 0.6-0.8 ลิตร/100 กม. 

รถไฮบริด 2024

4.Honda City Hatchback e:HEV

รถไฮบริด2024 แบบฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร มีมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 2 ตัว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) ) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่สามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าได้ปริมาณมาก มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ราว ๆ 27.8 กิโลเมตร/ลิตร

5.Porsche Cayenne E-Hybrid

สุดยอดนวัตกรรมรถไฮบริด 2024 ระดับพรีเมียม ตัวรถเป็นสไตล์ SUV คูเป้ มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลัง 340 แรงม้า เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 136 แรงม้า ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 462 แรงม้า มีอัตราอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ราว ๆ 29.4-31.2 กิโลเมตร/ลิตร 

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
Content

รถยนต์ดีไซน์ทันสมัย NETA V ราคา ดีที่จับต้องได้

NETA V ราคา

บอกเลยว่าในปัจจุบันในโลกของรถยนต์ นวัตกรรมใหม่ในยุคของรถยนต์ หากว่าใครที่ใช้รถยนต์ที่ยังเป็นรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงที่เป็นน้ำมันในการเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนอยู่ ถือว่าตามเทรนโลกตามยุคสมัยของรถยนต์ในปัจจุบันตอนนี้ไม่ทันแล้ว เพราะในตอนนี้ไม่ว่าใคร ๆ ก็ต่างเลือกเลือกที่จะรักโลก รักธรรมชาติให้มากขึ้นไปกว่าเดิมด้วยการที่เลือกใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรถยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า แทนการใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีบรรยากาศที่ดีของโลกในอนาคต และเซฟเงินในกระเป๋ามากขึ้นจากการไม่ต้องเลือกเติมน้ำมันในการขับขี่ ที่หากเทียบกันแล้วถือว่าประหยัดเงินลงเป็นจำนวนหลายเท่าหากว่าเทียบกับการเดิมพันน้ำมันแบบปกติกับการราคาค่าชาร์จไฟฟ้าในการเดินทาง 

โดยที่หากว่าใครมองว่าการใช้รถในรูปแบบใหม่ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้ขายตลาดตอนนี้มีราคาที่เพียงไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนหากเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายค่าตัวรถมาเทียบกับค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าน้ำมันที่ลดลงดูไม่ค่อยคุ้มค่ากันเลย บอกเลยว่าตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เพราะว่าด้วยการที่มีค่ายรถยนต์จำนวนมากได้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาในตลาดเป็นจำนวนมาก และได้แข่งขันกันในเรื่องของราคา ที่เรียกได้ว่าถูกมากกว่ารถยนต์ทั่วไปที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงหลายเจ้าด้วยซ้ำ อย่างเช่นเจ้านี้ NETA V ราคาสุดโหด ที่บอกเลยว่าใครที่อยากเป็นเจ้าของรถแบรนด์นี้มีโปร เปิดตัวใหม่ กำเงินมาครึ่งล้านนิด ๆ ก็พร้อมขับออกจากโชว์รูมไปชาร์จไฟฟ้าชิว ๆ ที่บ้านของคุณได้แล้ว

NETA V รถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตูรุ่นเล็ก รูปร่างโฉบเฉี่ยว ไม่เหมือนใคร

สำหรับใครที่เห็นว่ารถของ NETA V ราคา โดนใจแล้วอยากที่จะเป็นเจ้าของรถคันนี้สักคัน แต่อยากรู้จักกับความสามารถของรถรุ่นเล็กคันนี้แบบคราว ๆ บอกเลยว่าต้องติดใจแล้วอยากได้เป็นเจ้าของสักคันอย่างแน่นอน ด้วยการที่ เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็ก แต่หากถามว่า NETA V กี่ประตู บอกเลยว่ารถยนต์ไฟฟ้าคันนี้เป็นรถยนต์คันเล็กที่มีถึง 5 ประตู กับ ภาพลักษณ์ รูปร่างเล็กกะทัดรัดดูโฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร กับสีสันที่สวยงามน่าขับน่าเป็นเจ้าของบอกเลยว่าหากได้เห็นรถยนต์จริง ต้องละสวยตาจากรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ไปไม่ได้แน่

ทำความรู้จัก NETA V รถประเทศอะไร รถไฟฟ้าราคาดี มีดีมากกว่าราคา 

ใครพอได้เห็นความสุดจัดของรถยนต์ไฟฟ้าตัวเล็กกับสเปกสุดโหดกับทาง NETA V ราคาโดนใจกันบ้างแล้ว หากจะถามถึงว่า NETA V รถประเทศอะไร บอกเลยว่าแม้จะเป็นรถที่มาจากประเทศจีน ไม่ใช่รถรุ่นท็อปที่มาจากยุโรปที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ แต่ก็ต้องบอกเลยว่าจีนในตอนนี้คือประเทศมหาอำนาจในด้านรถยนต์ที่กำลังมาแรงมากในตอนนี้ โดนที่มีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก และแบรนด์เหล่านั้นก้เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง และมี ความปลอดภัย น่าไว้วางใจเป็นอย่างมาก ยิ่งเป็นแบบนี้เท่ากับว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนนั้นยิ่งมีการแข่งขันกันอย่างสูงเป็นอย่างมากเพราะงั้น มั่นใจเรื่องมาตรฐานรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนกันได้เลยว่า ตอบโจทย์ และมี ความเหมาะสม กับทั้งเงินที่คุณได้จ่ายไปจะได้ความคุ้มค่าแบบสูงสุดอย่างแน่นอน โดยหากจะถามว่า NETA V ใช้เงินกี่บาท ตามในส่วนต่อไปของบทความมีคำตอบ และรับรองว่าราคาโดนใจถูกใจทุกคนอย่างแน่นอน

NETA V ราคา

NETA V มีรุ่นอะไรบ้าง รถยนต์ไฟฟ้าราคาดี ที่ต้องมีเป็นเจ้าของสักคัน

ใครที่ตามเรื่อง NETA V ราคา เท่าไหร่ ต้องการจะ ออกรถ NETA V ใช้เงินกี่บาท คุณเลือกได้ถูกต้องแล้ว เพราะหากถามถึงราคาของ NETA V ในตอนนี้ที่กำลังจัด โปรโมชั่น อยู่นั้นสามารถทำให้คุณ ได้รถยนต์ไฟฟ้าในราคาดี ๆ ที่ราคาโปรโมชั่นที่ราคาอยู่ที่ ครึ่งล้านนิด ๆ พร้อมด้วยสามารถ ออกรถดอกเบี้ยต่ำ ที่บอกเลยว่าราคาดี เหมือนกับไม่ได้ผ่อนรถยนต์ เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่อยากได้รถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดกันเลย แต่หากว่าใครนั้นต้องการรู้ว่านอกจากรถ NETA V มีรุ่นอะไรบ้าง และโดยที่ทางรถในเครือ NETA AUTO จะมีรุ่นไหน ๆ อีกบ้างที่สามารถตอบโจทย์กับความต้องการของคุณได้นั้นไปตามดูพร้อม ๆ กันได้เลย

  1. NETA U
  2. NETA V
  3. NETA AYA
  4. NETA S
  5. NETA GT
  6. NETA X

NETA V ราคามือสอง ราคาดีเหมือนได้ รถไฟฟ้าไปแบบฟรี

ถ้าหากมองว่า NETA V ราคา ยังจับต้องไม่ถึง อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ชื่นชอบในรถไฟฟ้านั้นก็คงหนีไม่พ้นการไปหาเลือกดูรถยนต์ NETA V ราคามือสอง ที่บอกได้เลยว่าแม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งมาทำตลาดในประเทศไทยได้ไม่นาน แต่ก็มีรถมือ 2 เป็นจำนวนมากให้คุณได้เลือกซื้อกัน แม้ว่าราคาไม่ได้ตกไปจากมือ 1 มากนักแต่ก็ถือว่าเป็นราคาที่ราคาดี ราคาน่าจับต้องถึงแบบที่เซฟเงินของคุณมาได้หลายหมื่นกันเลย เรียกได้ว่ามีเงินหลัก 5 แสนก็มีทอน นับได้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามือ 2 ที่ราคาถูกที่สุดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในตอนนี้เลยก็ได้ แถมยังถูกกว่ารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงหลาย ๆ รุ่น เหมือนกับได้รถไฟฟ้าราคาถูก ราวกับได้รถดี ๆ มาใช้กันแบบฟรี ๆ กันได้เลย ทำให้มองว่าหากว่าคุณอยากได้รถไฟฟ้าที่มี การใช้งาน ที่สุดยอดมาสักคันนึงการเลือกรถยนต์ไฟฟ้าของ NETA รุ่น NETA V ถือเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยสำหรับใครหลาย ๆ คนกันเลย
 

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
Content

ECO CAR 2024 รถสุดประหยัด ช่วยโลกง่าย ราคาสบายกระเป๋า

ECO CAR 2024

สำหรับใครที่มีรถยนต์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว หรือกำลังตามหารถยนต์อีกสักคันที่เหมาะสมกับยุคสมัยใหม่ยุคนี้ ที่นับว่าเป็นยุคแห่งการประหยัดพลังงานที่นอกจะช่วยตัวคุณได้ทั้ง การที่ได้สบายกระเป๋ามากขึ้นจากการที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของการเติมน้ำมันรถยนต์ที่น้อยลง ใช้งานรถยนต์ได้นานขึ้นกับปริมาณน้ำมันที่ต้องเติมน้อยลง อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งหนทางในการช่วยเหลือโลกจากทั้งภาวะโลกร้อนที่ดีจะไม่ใช่เรื่อง ที่ดูจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้วสำหรับพวกเราในปัจจุบัน แถมยังช่วยรถภาวะจากมลพิษจากฝุ่น PM 2.5 ที่ประเทศของราต้องเจอกันในตอนนี้ ช่วยทั้งตัวเราเองช่วยทั้งโลกของเราให้น่าอยู่มากขึ้นไปอีกหลายสิบเท่า ซึ่งนวัตกรรมที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นั้นก็คือรถ ECO CAR 2024 ที่ไม่ได้เป็นเรื่องอะไรใหม่แล้วในเวลานี้ แต่เป็นเรื่องที่ทุก ๆ คนต้องช่วยเหลือกันเพื่อทั้งโลก และเงินในกระเป๋าของเราที่จะมีเพิ่มมากขึ้นจากการจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่น้อยลง ซึ่งในตอนนี้ก็มีรถยนต์อีโค่คาร์ทั้งมือ 1 ที่เพิ่ง เปิดตัวใหม่ และรถยนต์ รถอีโค่คาร์มือสอง ให้คุณได้เลือกตาม ความเหมาะสม ให้คุณได้เลือกตามท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากว่าคุณต้องการจะช่วยตัวคุณ และโลกใบนี้แต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้รถ ECO CAR รุ่นไหนดี 2024 สำหรับปีนี้เราก็มีรถในรุ่นต่าง ๆ ให้คุณได้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก โดยจะมีอะไรบ้างไปตามดูด้วยกันในบทความชิ้นนี้ได้เลย

รถอีโค่คาร์มือสอง กับความประหยัด 2 เท่า อันเหนือชั้น

สำหรับใครที่ได้เห็นถึงความสำคัญของโลกในเรื่องของมลพิษ ที่มีเพิ่มมากขึ้นในโลกของเราในตอนนี้แบบที่หยุดไม่อยู่ แล้วพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยโลกอันสวยงามของเราใบนี้ให้ได้อยู่กับเราไปได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น แต่มองว่าการที่จะไปซื้อรถยนต์ECO CAR 2024 ที่เป็นรถรุ่นใหม่ป้ายแดงที่มีราคาแพงพอสมควรอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเกินตัวไปหน่อยก็ยังมีอีก 1 ทางเลือกที่จะช่วยให้คุณได้รถยนต์อีโค่คาร์ดี ๆ สักคันมาเป็นของตัวเองด้วยการเลือก รถอีโค่คาร์มือสอง ที่บอกเลย หากเลือกได้ดีก็จะได้รถยนต์อีโค่คาร์ที่ดีมีคุณภาพ ตอบโจทย์ ใน การใช้งาน ของคุณในแบบที่คุ้มค่าคุ้มราคากันไปเลยโดยที่รถยนต์ทั้งมือหนึ่งที่เป็นECO CAR ราคาไม่ถึง 5 แสน  ก็มีให้ได้เลือกเป็นจำนวนมาก ยิ่งเป็น รถอีโค่คาร์มือสอง ราคายิ่งหายไปเกือบแสนหรือบางคันบางรุ่นหายเลือกดี ๆ ราคาหายไปเป็นแสนก็มี เรียกได้ว่าทำให้คุณประหยัดทั้งค่าน้ำมันที่ต้องเติม และประหยัดทั้งราคารถยนต์อีโค่คาร์ที่ดีมีคุณภาพให้กับคุณแบบโชคสองชั้นกันไปเลยทีเดียว

แนะนำ ECO CAR รุ่นไหนดี 2024 นี้คันไหนน่าสนใจไปดูกันเลย

อย่างที่รู้ ๆ กันว่าการเลือกใช้รถยนต์ECO CAR 2024 ในปีนี้ที่ได้เปิดตัวรถยนต์ในรูปแบบอีโค่คาร์มาให้ได้เลือกมาพอสมควรแล้ว ทำให้ทางเลือกในหารถยนต์อีโค่คาร์ดี ๆ สักคันนั้นมีเพิ่งขึ้นมากมายไปอีก โดยที่ในปีนี้นั้นจะมี CAR รุ่นไหนดี 2024  ที่คุณต้องซื้อที่น่าจับจองเป็นเจ้าของทั้งไม่ว่าจะเป็นอีโค่คาร์มือหนึ่งหรือเป็น รถECO CAR มือสอง รุ่นไหนดี ทางเราก็ได้รวมกันให้คุณหมดแล้วที่นี่ หรือแม้แต่ รถECO CAR ราคาไม่ถึง 5 แสน ราคาดีโดนใจ โปรโมชั่น เด็ดโปรโมชั่นใหญ่เราก็ได้เอามารวมกันในลิสทั้งของหัวข้อนี้แล้วจะมีคันไหนเด่นคันไหนน่าสนใจกันบ้างไปดูพร้อม ๆ กันตอนนี้ได้เลย

  1. Honda City 1.0 Turbo
  2. Toyota Yaris Ativ
  3. Suzuki Swift
  4. Mazda2 Hatchback 1.3
  5. Nissan Almera 1.0 Turbo
ECO CAR 2024

สิ่งที่ต้องรู้จัก ก่อนเลือกซื้อ รECO CAR 2024

ได้เห็นถึงรถยนต์ECO CAR 2024 ในปีนี้ที่ดีและน่าสนใจกันไปแล้วว่ามีรถยนต์คันไหนเด็ดบ้าง โดยที่ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์อีโค่คาร์ทั้งมือหนึ่ง และ รถอีโค่คาร์มือสอง ก็ล้วนแต่มีดีเพียงพอให้กับคุณได้เป็นเจ้าของทั้งหมด แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงและต้องรู้จักเกี่ยวกับ สิ่งที่ต้องรู้เพื่อที่จะได้รถยนต์อีโค่คาร์ที่ดีและเหมาะสมกับคุณได้มากขึ้นโดยที่จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

  1. เครื่องยนต์ ไม่มีจะเป็นรถยนต์มือหนึ่ง หรือมือสองคุณต้องเข้าใจในเครื่องยนต์ของรถรุ่นที่คุณต้องการเพื่อที่จะได้เหมาะสมเพียงพอการความต้องการของคุณ
  2. มีระบบ ความปลอดภัย ที่พร้อมที่พร้อมทำให้คุณสบายใจได้ทุกการขับขี่แบบที่ ไม่ต้องกังวลอะไรในรถยนต์อีโค่คาร์คันใหม่ของคุณเลย
  3. มีราคาที่เหมาะสม สิ่งนี้สำคัญมากเพราะหากว่าราคาที่คุณได้ไป กับการใช้งานและต่าง ๆ ของคุณไม่สัมพันธ์กันอาจจะทำให้ต้องจ่ายเงินเยอะขึ้นโดยไม่ได้ประโยชน์อะไรด้วยซ้ำ
  4. มีฟังก์ชั่นในการช่วยใช้งานรถยนต์อีโค่คาร์ของคุณอย่างครบครัน เพื่อการใช้งานที่มากกว่าและใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น
  5. ความชอบของผู้ใช้งาน เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะบอกว่าสำคัญไหมก็สำคัญ เพราะว่าหากว่าเราได้รถยนต์มาสักคันแต่เจ้าของรถยนต์กลับไม่ชอบใจในรถยนต์อีโค่คาร์คันใหม่ของตัวเองก็คงไม่เหมาะ เพราะงั้นนี่คืออีกองค์ประกอบโดยรวมที่จะเอาไปตัดสินใจในการเลือกซื้อรถยนต์อีโค่คาร์ดี ๆ ของคุณสักคัน

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
Content

รถ MG EP ดีไหม กับรถไฟฟ้าราคาประหยัดที่พร้อมให้เป็นเจ้าของ

รถ MG EP ดีไหม

ในโลกของยานยนต์ทั้งในอดีต และปัจจุบันต่างมีการขับเขี้ยวกันในเรื่องการขับขี่กันนับกว่าพัน ๆ ปีกันมาแล้ว เพราะการขนส่งของมนุษย์นั้นเป็นส่งที่สำคัญเป็นอันดับแรก ๆ เลยเพราะหากว่าเดินทางได้อย่างรวดเร็วเราก็มีเวลาไปทำอะไรอย่างอื่น มากมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเวลาเหล่านั้นมีมูลค่าเราประเมิณค่าไม่ได้เลย เพราะสิ่งนั้นวงการขับขี่จึงได้มีการพัฒนาแข่งขันกันอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วงชิวความเป็นเจ้าแห่งความเร็วเพื่อที่จะได้เวลาอันมีค่าเหล่านั้นมาเป็นของตัวเอง โดยที่การแข่งขันนั้นก็ได้พาเราก็เข้าสู่ยุคในการขับขี่ในยุคต่าง ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่รถลากที่ต้องมีอะไรมาลากรถเพื่อให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ รถบนไอน้ำที่เราได้เห็นในหัวจักรของรถไฟ เครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งใช้กับทั้งรถยนต์ เรือและเครื่องบิน และในยุคปัจจุบันล่าสุดที่เป็นยุคของเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่จะเป็นการชาร์จไฟฟ้าเข้าไปเพื่อเป็นเชื้อเพลงในการขับเคลื่อน ซึ่งในปัจจุบันก็มีรถยนต์ไฟฟ้ามากมายมาให้คุณได้เลือกใช้กันในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าหากจะพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าในราคาประหยัดคงหนีไม่พ้นรถยนต์จาก รถ MG EP ดีไหม บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งรถไฟฟ้าที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคาแบบไม่ต้อง ลดราคา เลยเพราะมีราคาที่ถูกอยู่แล้วถือว่า ตอบโจทย์ เรื่องราคาและความสามารถที่คุ้มกับเงินที่เสียไปแน่นอน

รถ MG EP ดีไหม

MG EP เป็นรถไฟฟ้าไหม ตอบข้อสงสัยให้ได้รู้กันวันนี้

MG EP เป็นรถไฟฟ้าไหม คำถามที่ใครหลายคนอยากรู้ บอกว่านี่แหละคือรถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ของทางค่ายรถยนต์ MGที่หลาย ๆ คนน่าจะพอรู้จักชื่อเสียงของรถยนต์จากทาง MG กันมาพอสมควรกันอยู่แล้ว แต่กับรถยนต์รูปแบบใหม่อย่างรถยนต์ MG EP นั้นคือรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของทาง MG ที่ได้นำมาตีตลาดการแข่งขันในรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีจุดขายในเรื่องของราคาและความคุ้มค่าของตัวรถยนต์กับราคาที่มีมากด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่เป็นอย่างมาก ซึ่งหากไปเทียบกับราคาแล้วก็ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมากจนทำให้หลายคนนั้นเข้าใจผิดไปว่าจำนวนเงินในหลักแสนปลาย ๆ ค่อนไปทางกลางจะได้รถยนต์ เครื่องยนต์ ไฟฟ้าสักคันมาเป็นของตัวเองได้แล้วหรือหากถามว่า รถ MG EP ดีไหม บอกเลยว่าใช่และคุ้มค่ามาก

เปรียบเทียบ MG EP Plus เพิ่มอะไรบ้าง มาแบบละเอียด

หากใครที่อยากจะรู้จักกับ MG EP ให้มากยิ่งขึ้นไปอีกก็ต้องบอกก่อนว่าสำหรับ MG EP กี่ cc เทียบเป็นแรงม้าที่ 163 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตัน-เมตร พร้อมด้วยขนาดแบตเตอรี่ความจุกขนาด 50.3 kWh หากมองว่าสเปกนี้ว่าเด็ดแล้ว สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของทาง MG EP ตัวนี้ยังถือว่าเป็นรุ่นเล็กเลยเพราะว่าเรายังมีตัวรุ่นพี่อย่าง MG EP Plus ที่ได้เพิ่มความสุดยอดให้กับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าของทาง MG เพิ่มขึ้นไปอีกทั้ง การใช้งาน และ ภาพลักษณ์ ที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยที่ MG EP Plus กับ MG ES ต่างกันยังไง และตัวรุ่นใหม่อย่าง MG EP Plus เพิ่มอะไรบ้าง นั้นเราไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย

  1. เพิ่ม แผ่นปิดใต้ท้องด้านหน้าของตัวรถ
  2. เพิ่มชุด หลังคา Roof Rall รองรับน้ำหนักได้ 75 กิโลกรัม
  3. ระบบกรองอากาศจากฝุ่น PM 2.5

รถยนต์ไฟฟ้า MG มีรุ่นไหนบ้าง ที่มีความน่าสนใจในปี 2024 นี้

ถ้าใครมาถามว่ารถ MG EP ดีไหม ทุกคนสามารถตอบเป็นเสียงเดียวกันได้เลยว่าดีมาก ถึงแม้ไม่ได้เป็นแบรนด์รถหรูชื่อดังที่มีราคาแพงจนโอเวอร์ แต่ก็ถือเป็นแบรนด์ที่มีราคาที่ดีสมเหตุสมผลเผลอ ๆ ค่อนไปทางถูกได้เลยด้วยซ้ำ แถมยังมี ความปลอดภัย ที่ได้รับการยอมรับจากสากล พร้อมที่จะ ตอบโจทย์ ได้กับทุกการใช้งานของคุณได้เลย โดยที่นอกจากรถของ MG EP นี้แล้วในปี 2024 นี้ยังมี รถยนต์ไฟฟ้า MG มีรุ่นไหน ที่มีความน่าสนใจไปดูด้วยกันเลย

  1. MG4 ELECTRIC  รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่หน้าตาสวยหรู
  2. MG5 รถยนต์ทรงใหญ่ สุดยอดความทันสมัยและการใช้งานที่จุใจ
  3. MG EP รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็กราคาประหยัด กับการใช้งานแบบจัดเต็ม
  4. MG ES รถยตต์ไฟฟ้าสุดแกร่ง ทรงสวยน่าขับ
  5. MG ZS รถยนต์รุ่นเล็กสวยงามทันสมัย กะบราคาที่โดนใจ

รู้จัก รถ MG EP ดีไหม ดีอย่างไร ที่จะให้คุณได้มาเป็นเจ้าของสักคัน

ถ้าหากว่าคุณตามมาถึงตรงนี้ก็จะได้รู้ว่ารถ MG EP ดีไหม ดีอย่างไร โดยที่หากว่าคุณกำลังตามหารถยนต์ไฟฟ้าดี ๆ สักคันที่มีราคาที่ ความเหมาะสม ไม่ได้โอเวอร์จนเกินไปและมีพร้อมด้วยความสามารถในการขับขี่ที่สูงสุด บอกเลยว่าถ้าคุณเลือก MG EP ปัญหา ต่าง ๆ ในเรื่องของการขับขี่ก็จะหมดไปเพราะที่นี่มีพร้อมไปด้วยตัวช่วยในการอำนวยความสะดวกที่มีไม่แพ้รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ดังหลักล้านกันเลย คุ้มค่าทั้งราคาคุ้มค่าทั้งความสามารถคุ้มเงินที่คุณได้จ่ายไปทุกบาททุกสตางค์อย่างแน่นอน มีดีสุดยอดขนาดนี้แล้วคุณจะรอช้าไม่มาเป็นเจ้าของรถคันนี้สักคันได้อย่างไร

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023