Categories
Content

Type 57 SC Atlantic สุดยอดชิ้นงานออกแบบของ Jean Bugatti

Type 57 SC Atlantic

Type 57 SC Atlantic นับว่าเป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งของ Bugatti ที่สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงแค่ดีไซน์ที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ในเรื่องของเครื่องยนต์ และพละกำลังของรถก็แสดงถึงตัวตนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญรถรุ่นนี้ยังเป็นผลงานชิ้นออกแบบของ Jean Bugatti ลูกชายคนโตของ Ettore Bugatti ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Bugatti

Type 57 SC Atlantic รถซุเปอร์สปอร์ตคูเป้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Bugatti และผลิตออกมาเพียง 4 คัน

สำหรับ Bugatti Type 57ถูกผลิตออกมาทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Atlantic และ Atalante ซึ่งถูกผลิตออกมาในช่วงปี 1934 – 1940 ตรงกับช่วงสมัยรัชกาลที่ 7 ของไทย และสำหรับรุ่นที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักคือ Type57 SC Atlantic ตำนานที่ยิ่งใหญ่ของ Bugatti ที่ถูกผลิตออกมาในช่วงปี 1936 และ 1938 ซึ่งถูกผลิตออกมาทั้งหมดเพียง 4 คันทั่วโลกเท่านั้น 

โดย Bugatti Atlantic เป็นชิ้นงานดีไซน์ของ Jean Bugatti (ฌอง บูกัตติ) ลูกชายคนโตของ Ettore Bugatti ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Bugatti ที่สำคัญ 3 ใน 4 คันของ Type57 SC Atlantic ยังคงมีมาจนถึงปัจจุบัน และยิ่งไปกว่านั้นรถรุ่นนี้ยังกลายมาเป็นรถที่มีราคาสูงที่สุดในโลกอีกด้วย และเป็นเวลายาวนานกว่า 80 ปีที่วงการยานยนต์ของโลกตามหา Atlantic คันที่ 4 ที่สูญหายไปคันนี้ โดยรถทั้ง 3 คันที่ยังปรากฏตัวให้เห็นในปัจจุบันเป็นรถที่ลูกค้าของ Bugatti สัง่ทำขึ้นเป็นพิเศษ โดยมีรหัสแชสซี 57 374, 57 473 และ 57 591 และเจ้าของรถคันแรกอย่าง Bugatti type57 SC Atlantic 57 591 คือ Briton R.B. Pope. จึงทำให้รถคันนั้นถูกเรียกว่า “Pope Atlantic” และเจ้าของคนปัจจุบันยังเป็นดีไซเนอร์แบรนด์ระดับโลกอย่าง Ralph Lauren อีกด้วย 

นอกจากนี้ Bugatti Atlantic ยังเป็นเหมือนไอคอนให้กับเป็น Bugatti จนกลายมาเป็นประเพณีที่สานต่อในแง่ของความสง่างาม คุณภาพ และสมรรถนะ อีกทั้งยังเป็นรถคูเป้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในยุคนั้นและยังคงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาจนถึงทุกวันนี้ และที่กล่าวว่า Type57 SC Atlantic กลายเป็นรถที่แพงที่สุดในโลก คำนี้ก็คงไม่ผิดไปทีเดียว โดยข้อมูลของปี 2017 เปิดเผยว่า Type57 SC Atlantic รหัส 57374 มีราคาอยู่ที่ราว 40 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1,390,740,000 บาทเลยทีเดียว 

Bugatti Type57 SC Atlantic รหัสแชสซี 57 453 หายไปไหน? 

ตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า Type57 SC Atlantic มีทั้งหมดเพียง 4 คันบนโลกนี้ และมี 1 ใน 4 คันที่หายไปจากโลกนี้อย่างไร้ร่องรอย และดูเหมือนว่าปัจจุบันยังมีมีใครจะตามหามันเจอ โดย Bugatti type 57 คันที่หายไปคือคันที่มีรหัสแชสซี 57 453 ซึ่งเป็นรถคันที่ 2 ของรุ่น Atlantic และว่ากันว่า Jean Bugatti สร้างคันนี้ให้ตัวเอง และมีเพียงเขาหรือเพื่อนบางคนเท่านั้นที่ได้รับเกียรติให้นั่งหลังพวงมาลัยของรถคูเป้คันนี้ที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักแข่งรถ Bugatti 

Type 57 SC Atlantic

ปัจจุบันก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Jean Bugatti ขายรถคันนี้ให้กับเพื่อนนักแข่งรถของเขาหรือไม่ หรือว่าจะถูกย้ายไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่าฝรั่งเศส เนื่องจากหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และกองทัพเยอรมันก็รุกราน Alsace ซึ่งเป็นแคว้นในประเทศฝรั่งเศส และติดกับประเทศเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งหลายคนเชื่อว่าข้อนี้น่าจะเป็นไปได้มากกว่า และที่สำคัญการหายไปของมันคือหนึ่งในความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของรถยนต์เลยก็ว่าได้ ซึ่งนักประเมินได้ประเมินราคาของ Bugatti Type57 SC Atlantic 57 453 ไว้อยู่ที่ราว ๆ 100 ล้านยูโร หรือราว 3,718,230,425 บาทเลยทีเดียว 

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : sa-game.bet

Categories
Content

Yas Marina Circuit สนามแข่ง F1 2023 ผู้รับบทปิดฤดูกาลนี้

สนามแข่ง F1 2023

ประเทศในแถบตะวันออกกลางนอกจากจะร่ำรวยจากค้าน้ำมันแล้ว กีฬามอเตอร์สปอร์ตก็นับว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศในแถบนั้นได้อย่างมหาศาล ซึ่งอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็เป็นอีกหนึ่งเจ้าภาพในการแข่งขัน Formula One ซึ่งจะถูกจัดขึ้นที่ Yas Marina Circuit สนามแข่ง F1 2023 ที่ในปีนี้เขาได้รับเกียรติให้เป็นผู้ปิดฤดูกาลนี้

ประวัติ สนามแข่ง F1 2023 Yas Marina Circuit สนามแข่งรถแห่งแรกในอาบูดาบี

หากใครที่เปิด ตาราง F1 2023 ก็คงจะได้เห็นแล้วว่าสนามแข่ง F1 2023 จะมีสนามใดบ้าง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Yas Marina Circuit สนามแข่งรถแห่งแรกของเมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยประวัติการสร้างสนามแข่งแห่งนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ มาฝากทุกคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้กีฬาความเร็วแท้

Yas Marina Circuit นับว่าเป็นหนึ่งใน สนามแข่งรถ ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังนับว่าเป็นพื้นที่สำหรับทุก ๆ เนื่องจากบนสนามแข่งแห่งนี้มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกมากมาย อีกทั้ง Yas Marina Circuit ยังเป็นศูนย์กลางด้านมอเตอร์สปอร์ต ความหรูหรา การเติบโตของกีฬา และการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เลยก็ว่าได้ 

โดยในปี 2006 มีการประกาศแผนการที่จะพัฒนาเกาะยาส (Yas) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของอาบูดาบี ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ซึ่งเป็นการพัฒนาทั้งเกาะ โดยแผนส่วนใหญ่มีศูนย์กลางอยู่ที่สนามแข่งระยะทาง 5.5 กิโลเมตร หรือ Yas Marina Circuit ที่รู้จักกันในทุกวันนี้ และการก่อสร้างสนามเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2007 และโครงการแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม ปี 2009 อีกทั้งสนามแข่งแห่งนี้ถูกออกแบบโดยนักออกแบบสนามแข่งชื่อดัง Hermann Tilke และก่อนการแข่งขันปี 2021 สนามแห่งนี้ได้รับการปรับเปลี่ยนโดยการย่อรอบให้สั้นลงเหลือ 5.28 กม. เพื่อช่วยเพิ่มความตื่นเต้นในการแข่งขัน

Yas Marina Circuit จัดอีเวนท์มอเตอร์สปอร์ตมากกว่า 400 อีเวนท์ต่อปี

Yas Marina Circuit นอกจากจะเป็นสนามแข่ง F1 2023 สำหรับจัด Etihad Airways Abu Dhabi Grand Prix แล้วสนามแห่งนี้ยังเรียกว่าเป็นสนามแข่งรถที่คึกคักตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้ เนื่องจาก Yas Marina Circuit ถูกใช้เป็นสนามที่จัด การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต มากถึง 400 อีเวนท์ต่อปี ยังไม่นับรวมการจัดการแข่ง Health and Fitness ซึ่งจะเป็นการจัดการแข่งขัน TrainYAS โดย Abu Dhabi Sports Council หรือ TrainYAS Ladies โดย Abu Dhabi Sports Council ฟรีประจำสัปดาห์ หรือ TrainAM และ TriYAS ประจำปี และการประชุมใหญ่ขององค์กร เรียกได้ว่าเป็นเกาะที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง และเกาะแห่งกีฬา การออกกำลังกาย และความหรูหราอย่างแท้จริง 

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : sa-game.bet

Categories
Content

แนะนำ 5 ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ฉบับส่งท้ายปี 2023

ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี

ยางรถยนต์นับว่าเป็นอีกหนึ่งในชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะยางรถยนต์นั้นนอกจากจะช่วยให้รถยนต์ของคุณวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดน้ำมันแล้ว ยังเป็นตัวช่วยให้คุณใช้รถได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากแนะนำ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ฉบับส่งท้ายปี 2023 ซึ่งจะมียี่ห้อไหนบ้างนั้น วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาให้เพื่อน ๆ แล้วค่ะ

ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี 5 ยี่ห้อดัง คุณภาพจัดเต็ม

สำหรับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ที่เราจะพานำมาแนะนำให้กับเพื่อน ๆ ในวันนี้ล้วนเป็น ยางรถยนต์ ชื่อดังและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อีกทั้งยังเป็นยางที่ได้รับมาตรฐาน ซึ่งจะมียางยี่ห้อไหน หรือเป็นยางรถยนต์แบรนด์ที่คุณกำลังใช้อยู่หรือไม่ เรารวบรวมมาให้แล้วดังนี้

  • Pirelli (พิเรลลี่) ผู้ผลิตยางรถยนต์ข้ามชาติของอิตาลี ที่ผลิตทั้งในส่วนยางสำหรับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และจักรยาน โดยเฉพาะในส่วนของยางรถยนต์ที่มีการพัฒนายางให้มีคุณสมบัติที่หลากหลายตอบโจทย์การใช้งานของรถยนต์แต่ละประเภททั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถสปอร์ต รถบรรทุกหรือแม้กระทั่งรถแข่ง โดยราคายางรถยนต์จากแบรนด์นี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 30,000 บาท/เส้น และที่สำคัญยางทั้งหมดของ Pirelli ยังนำเข้าจากอเมริกา และยุโรป 100%  
ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี
  • Michelin (มิชลิน) บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ข้ามชาติของฝรั่งเศส ที่ผลิตยางสำหรับรถยนต์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, จักรยานยนต์, รถแข่ง, รถบรรทุก, รถไฟฟ้าใต้ดิน (Metro), เครื่องบิน, รถสำหรับการก่อสร้าง และสำหรับการเกษตร เป็นต้น และเมื่อมีการจัด อันดับยางรถยนต์ของโลก มิชลิน กลายเป็นอันดับ 1 ของโลกโดยไม่มีข้อสงสัย โดยราคาของยางรถยนต์จากมิชลินเริ่มต้นที่หลักพันบาทต่อเส้น 
ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี
  • Bridgestone (บริดจสโตน) แบรนด์ผู้ผลิตยางรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีบริษัทลูกในไทยถึง 7 บริษัทด้วยกัน จึงทำให้เราสามารถซื้อยางคุณภาพดีได้ในราคาที่ย่อมเยาลง โดยราคาจากบริดจสโตนอยู่ที่หลักพันบาทต่อเส้น ซึ่งใครที่กำลังมีคำถามว่า รถวิ่งน้อย เปลี่ยนยางยี่ห้อไหนดี ก็เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ยากแนะนำเป็นอย่างยิ่ง
  • Dunlop (ดันลอป) แบรนด์ยางรถยนต์ที่ต้องเติมลมเส้นแรกของโลกถือกำเนิดขึ้นในปี 1888 เมื่อ 134 ปีก่อน โดย จอห์น บอยด์ ดันลอป (John Boyd Dunlop) เป็นนักประดิษฐ์และศัลยแพทย์สัตวแพทย์ชาวสก็อต ที่พัฒนายางชนิดเติมลมชิ้นแรกขึ้นที่ประเทศไอร์แลนด์ในที่ทำงานของเขา ดังนั้นหลายคนจึงบอกว่ายาง Dunlop เป็นยางรถยนต์สัญชาติไอร์แลนด์ ซึ่ง Dunlop เป็นยางรถที่มีฐานผลิตในไทยด้วย ดังนั้นยางจากแบรนด์นี้จึงมีทั้งคุณภาพที่ดีรวมไปถึงมีราคาที่ถูกมาก ๆ โดยราคายางที่แพงสุดอยู่ที่หลักหมื่นต้น ๆ ต่อเส้นเท่านั้น
  • Goodyear (กู๊ดเยียร์) ผู้ผลิตยางที่ผลิตตั้งแต่ยางรถยนต์ รถแข่ง ไปจนถึงยางเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดของโลก ก่อตั้งโดย มร.แฟรงค์ ไซเบอร์ลิ่ง ที่ปัจจุบันมีโรงงานผลิตมากถึง 57 แห่งใน 23 ประเทศทั่วโลก รวมไปถึงในประเทศไทย ดังนั้นยางจากแบรนด์นี้จึงมีราคาเริ่มต้นที่ค่อนข้างถูก เช่นเดียวกับอีก 3 แบรนด์ข้างต้นที่มีฐานผลิตในไทยเช่นเดียวกัน จุดเด่นของยางกู๊ดเยียร์ที่มีราคาถูกแล้ว ยังเป็นยางที่มีอายุการใช้งานที่นาน ช่วยเรื่องประหยัดน้ำมัน และหากเป็นรุ่นนำเข้าก็ยังมีราคาที่ถูกเพียงหลักพัน จึงทำให้หลายคนเลือกใช้ยางยี่ห้อนี้ 

ยางที่ดีควรได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน 

หลังจากที่เราไปดู ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ฉบับส่งท้ายปี 2023 กันแล้ว ล่าสุดหากใครที่ได้ติดตามข่าวก็คงจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับการเข้าตรวจค้นโกดังเก็บยางรถยนต์แห่งหนึ่ง และพบยางรถยนต์จำนวนมากประทับตรายี่ห้อ “Thaistone” ซึ่งเป็นยางที่ถูกผลิตขึ้นโดยไม่ได้มีใบอนุญาติ และไม่ได้รับรับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ดังนั้นหากใครที่กำลังใช้ยางรถยนต์จากแบรนด์ดังกล่าวเราแนะนำให้ยุติการใช้งาน หรือรีบนำไปเปลี่ยนทันที

นอกจากนี้สำหรับ ใครที่อยากใช้ยางไทย หรืออยากทราบว่า ยางรถยนต์ไทยยี่ห้อไหนดี เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับ Deestone ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางสัญชาติไทยที่ได้รับมาตรฐาน อีกทั้งยังมีการส่งออกไปยังหลายประเทศทั่วโลก ดังนั้นใครที่สนใจอยากใช้ยางแบรนด์ไทย ยี่ห้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่เราอยากแนะนำค่ะ

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : sa-game.bet

Categories
Content

Giacomo Agostini นักแข่งมอเตอร์ไซค์ ระดับตำนานแชมป์โลก 15 สมัย

นักแข่งมอเตอร์ไซค์

หากจะกล่าวถึง นักแข่งมอเตอร์ไซค์ ระดับตำนาน หลายคนอาจจะนึกถึง Valentino Rossi แชมป์โลก 9 สมัย แต่จริง ๆ แล้วในวงการแข่งมอเตอร์ไซค์ทางเรียบมีนักบิดอีกหนึ่งคนที่บอกเลยว่าคนนี้คือ ที่สุดของตำนานวงการแข่งรถอีกหนึ่งคนเลยก็ว่าได้ เขาคนนั้นคือ Giacomo Agostini นักแข่งมอเตอร์ไซค์แชมป์โลก 15 สมัย และปัจจุบันเขายังเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจอีกหนึ่งคนของวงการกีฬาความเร็วอีกด้วย

ทำความรู้จักกับ Giacomo Agostini สุดยอด นักแข่งมอเตอร์ไซค์ 

นักแข่งมอเตอร์ไซค์

Giacomo Agostini เกิดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 1942 โดยเขาเติบโตขึ้นมาในเมือง Lovere ใกล้เมืองแบร์กาโม ประเทศอิตาลี Agostini เป็นพี่ชายคนโตในบรรดาพี่น้อง 4 คน ซึ่งในปี 1964 เขาก็ได้รับข้อเสนอให้ไปเข้าร่วมทีม Morini (Moto Morini) ซึ่งนับว่าเป็นการเริ่มต้นการเป็น นักแข่งมอเตอร์ไซค์ ของเขาอย่างเป็นทางการและย้ายไปสังกัดทีม MV Agusta ในปี 1965 ซึ่งปีนั้น Giacomo ในวัย 23 ปี ก็สามารถทุบสถิติของตัวเองมาได้ ด้วยการคว้าแชมป์โลกอันดับ 2 ในการแข่งขัน 350cc ครั้งแรกที่ Nürburgring สนามแข่งที่อันตรายที่สุดในโลกมาได้ในฐานะตัวสำรองให้กับ Mike Hailwood นักแข่งมอเตอร์ไซค์ อังกฤษ แชมป์โลก 9 สมัยผู้ล่วงลับ 

หลังจากนั้น Mike Hailwood ย้ายไปสังกัดทีม Honda ในปี 1966 Giacomo Agostini ก็กลายมาเป็นนักแข่งอันดับ 1 ของ MV Agusta และตอบสนองด้วยการคว้าแชมป์โลกอันดับ 1 ในรุ่น 500cc มาให้ทีมจนได้ ซึ่งครั้งนั้นก็นับว่าเป็นการแข่งขันในรายการ 500cc ครั้งแรกของเขาอีกด้วย และตั้งแต่ปี 1966 – 1974 เขาก็ยังคงสามารถคว้าแชมป์โลกทั้งจากรายการ 500cc และ 350cc รวมแล้วทั้งหมด 15 แชมป์โลกเลยทีเดียว ซึ่งจะเรียกว่าเป็น นักแข่ง MotoGP ที่เก่งที่สุดในโลก ก็คงไม่เกินจริงอย่างแน่นอน

Giacomo Agostini ตัดสินใจเกษียณหลังหันไปแข่ง F1 แล้วไม่เวิร์ค

Giacomo Agostini ถึงแม้ว่าเราจะเรียกเขาว่าเป็น นักแข่งมอเตอร์ไซค์ แต่จริง ๆ แล้วก่อนที่เขาจะตัดสินใจเกษียณในปี 1977 ระหว่างปี 1975 ในขณะที่ Giacomo Agostini ยังคงเข้าร่วมการแข่งมอเตอร์ไซค์ในรายการ 350 และ 500cc อยู่นั้น เขาก็ได้หันไปแข่งรถ Formula และ Formula One ด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความสุขกับมันเท่าที่ควรดังนั้นในปี 1980 เขาก็ตัดสินใจเกษียณจากการเป็น นักแข่งรถระดับโลก อย่างไรก็ตาม ในปี 1982 เขากลับสู่วงการแข่งรถในฐานะผู้จัดการทีม Yamaha จนสามารถและนำ Graeme Crosby นักแข่งชาวนิวซีแลนด์ไปสู่ตำแหน่งระดับโลกในทันที และปัจจุบันเขายังคงถูกเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายการ แข่งมอเตอร์ไซค์ทางเรียบ อยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะกิจกรรมของ Yamaha เรียกได้ว่าเป็นนักแข่งตำนานที่ยังมีลมหายใจอย่างแท้จริง

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : sa-game.bet

Categories
Content

Xiaomi มาแรงไม่หยุดหลังมีภาพหลุด Xiaomi MS11 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก

Xiaomi MS11

Xiaomi นับว่าเป็นแบรนด์เทคโนโลยีสัญชาติจีนที่ตลอด 4 – 5 ปีมานี้ สินค้าภายใต้แบรนด์ Xiaomi ค่อนข้างได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน แต่ล่าสุด Xiaomi ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากแฟน ๆ ได้เป็นอย่างมาก หลังมีภาพหลุดของ Xiaomi MS11 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ที่เราเชื่อว่า หากรถยนต์รุ่นนี้ถูกเปิดตัวออกมาเมื่อไรแบรนด์ก็คงไม่พลาดที่จะนำมาตีตลาดในไทยอย่างแน่นอน

Xiaomi MS11 โปรเจกต์ที่เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2021 

Xiaomi นับว่าเป็นโปรเจกต์คาร์ที่ Xiaomi มีความพยายามในการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2021 หลังจากที่ในปีเดียวกันนั้น Xiaomi ประกาศจัดตั้งบริษัทลูก Xiaomi EV, Inc. เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าตามแผนที่ประกาศไว้เมื่อต้นปี 2021 ในขณะเดียวกัน Xiaomi ยังได้ซื้อบริษัท Deepmotion Tech เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ และในปี 2021 ที่ผ่านมาทางบริษัท Xiaomi EV มีพนักงานแล้วกว่า 300 คนเลยทีเดียว

กระทั่งในปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็ได้มีภาพของXiaomi MS11 Car หลุดออกมา โดยรถรุ่นนี้จะเป็นรถยนต์สไตล์สปอร์ตซีดาน ขนาดกลางแบบ Fastback 5 ประตู ที่มีดีไซน์ภายนอกค่อนข้างมีคล้ายคลึงกันกับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla อยู่พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของมือจับประตูรถที่มีดีไซน์เดียวกันกับ Tesla เลยก็ว่าได้ หรือนี่อาจจะเป็นหนึ่งแรงบันดาลใจหลังจากที่ Lei Jun ผู้ก่อตั้งและ CEO ของXiaomi ได้ร่วมพูดคุยกับ Elon Musk ก่อนที่จะหันมาทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง นอกจากนี้ในส่วนของระบบ หรือฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถรุ่นนี้เราก็เชื่อว่าทางผู้ผลิตก็คงให้มาอย่างจัดเต็มแน่นอน และสิ่งที่น่าจับตามองอีกอย่างหนึ่งของXiaomi MS11 รุ่นนี้คือ “เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ” ที่จะทำออกมาได้ดี และมีเสถียรภาพขนาดไหน

รถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi ที่เตรียมจะเปิดตัวในปี 2024

สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้าXiaomi MS11 คาดว่าจะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2024 ซึ่งจะวางขายในประเทศจีนเป็นประเทศแรก และดูเหมือนว่าXiaomi ที่เปิดตัวเพื่อท้าชนกับ Tesla เพราะตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าดีไซน์ของMS11 มีความใกล้เคียงกับรถของ Tesla เป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญคือดูเหมือนว่านอกจากทั้ง 2 แบรนด์จะแข่งกันในเรื่องดีไซน์แล้ว เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในรถของแต่ละแบรนด์ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะสามารถดึงดูดลูกให้หันมาเลือกรถของพวกเขา ดังนั้นทั้ง 2 จึงอาจจะต้องงัดเอาเทคโนโลยีเด็ด ๆ มาใช้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ในส่วนของราคา เราคาดว่า รถยนต์ไฟฟ้าXiaomi MS11 รุ่นนี้น่าจะถูกวางหน่ายในราคาประมาณ 260,000-300,000 ยวน หรือราว ๆ 1,281,062 – 1,478,148 บาท

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : sa-game.bet

Categories
Content

Audi RS7 Legacy Edition รถสปอร์ตรุ่นพิเศษ ผลิตเพียง 200 คันทั่วโลก

Audi RS7 Legacy Edition

เมื่อไม่นานมานี้ ABT Sportsline ผู้นำด้านการปรับแต่งรถยนต์ของAudi และ VW Group นำเสนอรุ่นพิเศษ ABT RS6 Legacy Edition (LE) รถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่สุดในประวัติศาสตร์สองทศวรรษของ Audi RS6 ซึ่งมีการผลิตออกมาเพียง 200 คัน และล่าสุด ABT Sportsline กลับมาอีกครั้งกับการเปิดตัว Audi RS7 Legacy Edition หรือ ABT RS7-LE ที่จะมีการผลิตออกมาเพียง 200 คัน และรถรุ่นดังกล่าวแน่นอนว่าต้องเป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงตามมาตรฐานของ ABT Sportsline

Audi RS7 Legacy Edition รถที่ถูกพัฒนาให้มีกำลังถึง 760 แรงม้า

Audi RS7โฉมแรกถูกเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2013 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของเจ้าAudi RS7 ABT Sportsline และAudi จึงได้เปิดตัวAudi RS7 Legacy Editionรถสปอร์ตรุ่นพิเศษของAudi ที่นอกจากจะมาพร้อมดีไซน์ที่เท่ และดุดันแล้ว ทาง ABT ยังได้พัฒนาในส่วนของสมรรถนะรถรุ่นดังกล่าวให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้นตามมาตรฐานของ ABT Sportsline โดยRS7 Legacy Editionมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4 ลิตร Turbocharger ABT และอินเตอร์คูลเลอร์ ABT พร้อมเทคโนโลยี ABT POWER R ที่ให้กำลังสูงสุด 760 แรงม้า (559 กิโลวัตต์) ให้แรงบิดสูงสุด 980 นิวตันเมตร จากแต่เดิมมีกำลังสูงสุดเพียง 630 แรงม้า (hp) 463 กิโลวัตต์ อัตราเร่ง (0-100 กม./ชม.) ใน 3.1 วินาที 

ระบบกันสะเทือนของ ABT RS7-LE ได้รับการปรับให้เข้ากับสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นด้วย ABT Coilover springs  และระบบกันโคลงแบบสปอร์ตของ ABT ที่เพลาหน้าและเพลาหลังช่วยให้ยึดเกาะถนนได้อย่างสมบูรณ์แบบตลอดเวลา สปอยเลอร์หลังแบบ free-standing และให้ความรู้สึกสปอร์ตและพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยยาง Goodyear Eagle F1 Supersport 295/30 ZR22 และล้อมแม็ก ABT High Performance HR22 สีดำมันวาว ซึ่งความพิเศษของยางรุ่นนี้เป็นยางสมรรถนะสูงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง จึงให้การควบคุมที่ดีเยี่ยมบนถนนแห้งและสมรรถนะที่สมดุลบนถนนเปียก

RS7 รุ่นพิเศษ คาดว่าจะมีราคาจำหน่ายที่ 114,800 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ

อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าAudi RS7 Legacy Edition จะมีการผลิตออกมาเพียง 200 คันทั่วโลก ซึ่งราคาของรถรุ่นนี้คาดว่าจะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 114,800 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,993,892 บาท แต่หากมีการแต่งรถแบบ Full Option รถรุ่นนี้อาจจะมีราคาพุ่งไปถึง 278,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว และแน่นอนว่าราคานี้ยังไม่รวมภาษีนำเข้าไทย  นอกจากนี้สำหรับข้อมูลการเปิดจองยังไม่ถูกเปิดเผยออกมา ดังนั้นใครที่สนใจรถรุ่นนี้อาจจะต้องติดต่อสอบถามไปยังศูนย์บริการของAudi Thailand ว่าไทยได้รับโควตาหรือไม่ เพื่อให้คุณไม่พลาดการเป็นเจ้าของรถรุ่นพิเศษนี้

Koenigsegg CC 850 สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2022

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ18 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

สนับสนุนโดย : sa-game.bet